7/22/10

Free wallpaper : wonderful gril

สาว ๆ ในภาพ น่ารักมาก

เรามีเคล็บลับ เพิ่มความ sexy ให้กับสาวๆ มาฝากกันเล็กน้อยคะ

1. กลิ่นหอมหวน
สาวที่จะดูดีมีเสน่ห์นั้นบางครั้งเรื่องของกลิ่นก็เป็นปัจจัยที่สำคัญเลยนะคะ สาวๆ อย่างเราจะต้องรู้จักทำตัวให้หอมตลอดเวลา อ๊ะ แต่ไม่ใช่หอมฉุนเหมือนอาบน้ำหอมมานะคะ  เอาแค่พอดีก็พอค่ะ สาวๆ ต้องรู้จักเลือกน้ำหอมกลิ่นที่เหมาะกับบุคลิกตัวเองด้วยนะคะ





2.น้ำเสียงก็สร้างความประทับใจได้



ทุกคนไม่ได้เกิดมาพร้อมเสียงที่มีเสน่ห์ แต่เราอาจฝึกใช้เสียงในแบบของตัวเองที่ฟังดูแล้วให้ความรู้สึกดึงดูดใจมากขึ้นได้ สาวๆ ควรรู้จักวิธีการพูดและการสร้างเสียงในแบบหวานๆ บางอาจจะไม่ต้องถึงกับหวานเลี่ยนก็ได้นะคะ



                                         
3. ต้องทำให้ตัวเองเด็กลง


ขอนี้ขอคอนเฟิร์มเลยค่ะว่าจริง 100% การศึกษาทางจิตวิทยาบอกว่า ยิ่งคนเราหน้าตาอ่อนเยาว์แค่ไหน ก็ยิ่งดูมีเสน่ห์ดึงดูดใจมากขึ้นเท่านั้น ลองใช้เทคนิคเมกอัพสร้างลุคที่อ่อนเยาว์ อย่างเช่นการกันคิ้วให้เล็กเรียว แต่งหน้าให้อ่อนแบบใสๆ หรือไม่ก็แต่งตัวแอ๊บเด็ก บ้างก็ได้นะคะ ...




4. ฝึกสมองอยู่เสมอ

ความสวยดูดีมีเสน่ห์นั้นไม่ได้มีแต่ภายนอกเท่านั้นนะคะ แต่ความคิดของเรานั้นก็มีส่วนด้วย ถ้าสาวๆ เชื่อมั่น มั่นใจ ประกายความเป็นสาวมั่นสวยเซ็กซี่ก็จะเปล่งออกมาเองล่ะค่ะ ฉะนั้นฝึกสมองของเราให้บอกตัวเองเสมอว่า... "ฉันเซ็กซี่"



7/17/10

การ์ตูนเลียนแบบทีมฟุตบอลโลก

ใครชอบทีมไหน
เชียร์กัน เต็มที่เลย













7/14/10

สารต้านมะเร็ง


สารต้านมะเร็ง ในกล้วย
BANANAS with dark patches on yellow skin... กล้วยที่มีจุดดำๆบนผิว.....


The fully ripe banana produces a substance called TNF (Tumor Necrosis Factor) which has the ability to combat abnormal cells.
กล้วยที่สุกเต็มที่จะสร้างสารที่เรียกว่า TNF (Tumor Necrosis Factor) ซึ่งมีความสามารถที่จะไปต่อสู้กับเซลล์ที่ผิดปกติ



As the banana ripens, it develops dark spots or patches on the skin.
ยิ่งกล้วยสุกมากเท่าไหร่ ก็จะเกิดจุดสีดำที่เปลือกมากขึ้น
The more dark patches it has, the higher will be its' immunity enhancement quality.
ยิ่งมีจุดดำนี้มากขึ้นเท่าไหร่ ก็จะยิ่งทำให้เกิดภูมิต้านทานมากขึ้น
According to a Japanese scientific research, banana contains TNF which has anti-cancer properties. The degree of anti-cancer effect corresponds to the degree of ripeness of the fruit, i.e. the riper the banana, the better the anti-cancer quality..

จากงานวิจัยของนักวิทยาศาสตร์ญี่ปุ่น กล้วยจะมี TNF ซึ่งมีคุณสมบัติต่อต้านมะเร็ง ยิ่งกล้วยสุกมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งมีคุณสมบัติในการต่อต้านมะเร็งได้มากขึ้น

In an animal experiment carried out by a professor in Tokyo University comparing the various health benefits of different fruits, using banana, grape, apple, water melon, pineapple, pear and persimmon, it was found that banana gave the best results. It increased the number of white bloodcells, enhanced the immunity of the body and produced anti-cancer substance TNF.

ในการทดลองกับสัตว์โดยศาสตราจารย์ญี่ปุ่นผู้หนึ่งแห่งมหาวิทยาลัยโตเกียว ในการเปรียบเทียบประโยชน์ที่ได้จากผลไม้ต่างๆ โดยใช้ กล้วย องุ่น แอปเปิล แตงโม สับปะรด ลูกแพร์ ลูกพลับ ปรากฏว่ากล้วยให้ผลดีที่สุด มันช่วยทำให้เม็ดเลือดขาวเพิ่มขึ้น เพิ่มภูมิต้านทานของร่างกาย และสร้างสารต้านมะเร็ง

TNF The recommendation is to eat 1 to 2 banana a day to increase your body immunity to diseases like cold, flu and others.


คำแนะนำคือให้กินกล้วยวันละ 1-2 ใบเพื่อเพิ่มภูมิต้านทานต่อโรคต่างๆ เช่น หวัด ไข้หวัดใหญ่ และอื่นๆ
According to the Japanese professor, yellow skin bananas with dark spots on it are 8 times more effective in enhancing the property of white blood cells than the green skin version

ตามคำแนะนำของศาสตราจารย์ญี่ปุ่น กล้วยทีมีผิวเหลืองและมีจุดดำๆหลายๆแห่งจะมีคุณสมบัติในการเพิ่มเม็ดเลือดขาวได้มากกว่ากล้วยที่มีผิวเขียวถึง 8 เท่า บทความนี้เป็นความจริงครับ Necrosis แปลว่าการเปื่อยเน่าตายของเซลล์


ดังนั้น TNF (Tumor Necrosis Factor ) ก็คือสารที่จะไปทำให้เซลล์มะเร็งตายได้ กลไกการทำงานของ TNF คือ
1. การเกาะของ TNF กับเซลล์มะเร็งจะเป็นพิษโดยตรงกับเซลล์มะเร็งโดยการเกิดอนุมูลอิสระที่ไปทำลายเซลล์มะเร็ง ที่ไม่มีเอ็นซัยม์ Superoxide Dismutase เซลล์ปกติจะมีเอ็นซัยม์ Superoxide Dismutase ซึ่งลบล้างฤทธิ์อนุมูลอิสระได้ นอกจากนี้อาจไปทำให้เกิดจากการทำลายโปรตีนโครงสร้างของเซลล์มะเร็ง

2. TNF ทำให้ก้อนมะเร็งตายโดยทำให้เส้นเลือดที่ไปเลี้ยงก้อนมะเร็งอุดตัน ก้อนมะเร็งที่ขาดเลือดจึงเน่าตายไป อย่างไรก็ตาม TNF ไม่ใช่สิ่งที่ดีเสมอไปสำหรับทุกคน เพราะTNF ที่ทำให้เกิดอนุมูลอิสระขึ้นมาก็ย่อมจะก่อให้เกิดอาการอักเสบต่อเซลล์ได้เช่นกัน ดังเช่น ผู้ที่ป่วยเป็นโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ จะมีสาร TNF นี้สูง ซึ่งจะยิ่งทำให้เกิดการอักเสบมากขึ้น แทนที่จะเป็นประโยชน์ในผู้ที่มีอาการอักเสของร่างกาย จึงต้องใช้ยาที่มาต้านกับ TNF เพื่อลดอาการอักเสบแทน

7/3/10

Free Sexy Wallpaper

คนส่วนมากมักอ้างว่ายุ่งจนไม่มีเวลาออกกำลังกาย รวมถึงดูแลสุขภาพด้านอื่นๆ เปลี่ยนความคิดเสียใหม่ดีไหม เพราะแท้จริงแล้วคุณดูแลตัวเองได้ในเวลาอันน้อยนิด
ผลการศึกษาพบว่า คนเราสามารถมีความสุขในชีวิตมากขึ้นเพียงแค่เริ่มต้นเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมอย่างค่อยเป็นค่อยไป
เพียงเลือกทำตามคำแนะนำ ต่อไปนี้แค่สัปดาห์ละ ๒ - ๓ ข้อ เรารับรองว่า คุณจะมีชีวิตที่ดีขึ้นเครียดน้อยลง และมีพลังในการสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ เพิ่มขึ้น
1 .ดื่มน้ำทุกชั่วโมง เวลาทำงานเรามักยุ่งจนลืมดื่มน้ำ ทางแก้คือ วางแก้วน้ำหรือขวดน้ำไว้ใกล้มือแล้วจิบบ่อยๆ พบว่าหากปล่อยให้ร่างกายขาดน้ำจนน้ำหนักตัวลดลงแม้แค่ ๒ เปอร์เซ็นต์ จะมีผลให้ให้ความจำระยะสั้นและทักษะการแก้ปัญหาลดลง เมื่อไรที่รู้สึกกระหายน้ำ นั่นคือสัญญาณเตือนว่าขาดน้ำแล้ว

2. ยิ้มแย้มแจ่มใสอยู่เสมอ แต่ต้องเป็นรอยยิ้มที่มาจากใจด้วยนะ เพราะจะช่วยกระตุ้นการทำงานของสมองส่วนรับรู้ความสุข หากวันไหนรู้สึกเศร้าจนยิ้มไม่ออก โทรศัพท์ไปหาเพื่อนที่มุขเยอะหรืออยู่ใกล้คนอารมณ์ดีเข้าไว้ จะทำให้คุณยิ้มได้ เพราะคนเรามีแนวโน้มเลียนแบบอารมณ์ของคนที่พูดคุยด้วย

3. เช็คท่าทางของตัวเอง ขณะนั่งทำงานเรามักโน้มตัวไปข้างหน้าโดยไม่รู้ตัว ทำให้กล้ามเนื้อหลังส่วนบนยืดขึ้นจนอาจบาดเจ็บได้ ทางที่ดี ทุก ๒ - ๓ ชั่งโมง คุณควรเช็คท่านั่งของตัวเองเพื่อบุคลิกและสุขภาพที่ดี ท่าที่เหมาะสมคือ นั่งให้สะโพกและไหล่อยู่ในแนวตรงกัน ไม่ต้องถึงกับหลังตรงมากเกินไป ต้นขาขนานพื้น โดยให้ข้อเท้าอยู่ล้ำหัวเข่าออกไปเล็กน้อยหากต้องนั่งทำงานเป็นเวลา นานควรผ่อนคลายกล้ามเนื้อวันละ ๒ - ๓ ครั้ง โดยนั่งหลังตรง กางแขนทั้งสองขึ้นด้านข้างระดับไหล่ งอศอกให้มือทั้งสองแตะศีรษะ แล้วบีบสะบักหลังเข้าหากัน ค้างไว้ ๓ วินาที ทำซ้ำ ๓ ครั้ง



4. คิดจินตนาการเรื่องดีๆ ก่อนนอน ใช้เวลาก่อนแค่ ๒ - ๓ นาที วาดฝันเรื่องที่ทำให้คุณมีความสุข เช่น ทริปสุดสนุกช่วงพักร้อน ดินเนอร์ใต้แสงเทียนกับหวานใจ หรือคำชมจากเจ้านาย เทคนิคนี้ช่วยให้หลับได้เร็วและสนิทมากขึ้น ทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของหัวใจและสมาธิ
5.ผูกมิตรเพื่อนใหม่ แม้คุณจะเป็นคนมีมนุษยสัมพันธ์ไม่ว่ากับเพื่อนร่วมงาน หัวหน้างานหรือแม้แต่กับแม่บ้าน ก็ไม่ควรละเลยการทำความรู้จักผู้คนใหม่ๆ ด้วย เพราะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจมากขึ้นและเปิดโลกทัศน์ของตนเอง ที่สำคัญคือ เป็นผลดีต่อหัวใจ พบว่าคนที่มีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นมีความดันโลหิตต่ำกว่าคนไม่เข้าสังคม ซึ่งมักจัดการความเครียดด้วยวิธีที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ ทำให้อัตราการเต้นของหัวใจ ความดันโลหิตและระดับคอเลสเตอรอลเพิ่มขึ้น
6. ใกล้ชิดธรรมชาติ จะลงมือพรวนดิน ใส่ปุ๋ย รดน้ำต้นไม้ หรือแค่เดินชมนกชมไม้ก็ให้ประโยชน์ทั้งนั้น ผลการศึกษาในอังกฤษพบว่า หากได้สูดกลิ่นไอดินจะทำให้สมองหลั่งสารความสุขชื่อ เซโรโทนิน (serotonin) ออกมามากขึ้นถ้าบ้านของคุณมีพื้นที่ไม่มากนักปลูกไม้ ประดับหรือสมุนไพรไว้ในบ้านก็ได้ นอกจากสร้างความสดชื่นแล้ว ยังสามารถนำมาปรุงอาหารจานสุขภาพ ซึ่งอุดมไปด้วยสารแอนติออกซิแดนท์อีกต่างหาก
7. ฟังเพลงขณะเดินทาง ฟังดนตรีจังหวะสบายๆ บรรเทาความเครียดได้ เพราะช่วยให้ระบบประสาทผ่อนคลาย ป้องกันไม่ให้ระดับฮอร์โมนความเครียด ความดันโลหิตและอัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มสูงจนเกินไป ยิ่งร้องตามไปด้วยยิ่งส่งผลดี พบว่า การร้องเพลงช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันและลดฮอร์โมนความเครียด คอร์ติซอล (cortisol) แถมยังเป็นการปลดปล่อยอารมณ์ นอกจากนี้ขณะร้องเพลงเราจะสูดหายใจลึกขึ้น จึงเพิ่มปริมาณออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายเพื่อสร้างแอนติบอดีต่อสู้โรคหวัด